เมืองโบราณแห่งนี้มีการค้นพบมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๓ โดยมีการสำรวจของปลัดอำเภอเวียงชัยโกเมศ ขุนศรี (ปัจจุบัน สุเมธโสภิกขุ) และกรมศิลปากร ได้พบที่ดินลักษณะเป็นเนินสูง ชาวบ้านเรียกเวียงฮุ่ง ซึ่งเป็นเมืองโบราณมานานแล้ว คณะได้เดินสำรวจบริเวณเมืองดังกล่าว ซึ่งยังมีซากปรักหักพังของวัตถุโบราณปรากฏอยู่ เช่นซากเจดีย์ พระพุทธรูปหิน กองอิฐ หิน โอ่ง ไห ถ้วยชาม เสาหินและใบเสมา เมืองนี้มีความยาวประมาณ ๓ กิโลเมตร เนื้อที่ประมาณ ๘ ถึง ๙ ไร่ มีค่ายคูเมืองถึงสามชั้น มีป้อมและหอรบหรือหอสังเกตการณ์อยู่เรียงราย ชัยภูมิที่ตั้งของเมืองเป็นเนินสูง หากมองจากที่สูงจะสามารถมองได้โดยรอบ สามารถมองเห็นอำเภอพาน อำเภอแม่สาย แม่จัน เวียงชัย เวียงเชียงรุ้ง ดอยหลวงและอำเภอเมือง จากนั้นได้ขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ไว้ทั้งหมด ๕๐๘ ไร่ เป็นวนอุทยานประวัติศาสตร์เวียงเชียงรุ้ง ได้มีการสร้างวัด สิ่งปลูกสร้าง และยกฐานะจากวัดร้างเป็นวัดที่มีพระสงฆ์ใช้ชื่อว่า วัดเวียงเชียงรุ้ง เมืองโบราณแห่งนี้เชื่อว่า มีความเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ชาติไทยอาณาจักรล้านนา เชื่อมโยงถึงอาณาจักรสุวรรณโคมคำถึงอาณาจักรโยนกเชียงแสนเมืองไชยนารายณ์ไชยปราการและอื่นๆ