ตั้งอยู่บนถนนคำลือ ซอย 1 ตำบลในเวียง อำเภอเมือง เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้าน คู่เมืองของจังหวัดแพร่สร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างเมืองแพร่ หรือเป็นวัดแรกของจังหวัดแพร่ ได้รับการบูรณะซ่อมแซมหลายยุคสมัย วัดหลวง วัดเก่าแก่ที่สำคัญอยู่คู่บ้านอยู่เมืองแพร่มานับพันปีที่ วัดแห่งนี้สร้างขึ้นพร้อมๆ กับการสร้างเมืองแพร่ หลังสถาปนาเมืองได้ 1 ปี พญาพล กษัตริย์ผู้ก่อตั้งเมืองแพร่ จึงได้สร้างวัดหลวงขึ้น เพื่อเป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาและเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชน ถึงแม้จะผ่านกาลเวลามาเป็นพันปีแต่วัดหลวงอยู่อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก ปัจจุบันทางกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนให้วัดหลวงเป็นโบราณสถานของชาติที่มีอายุเก่าแก่นับพันปี ภายในวัดมีวิหารหลวงพลนคร ซึ่งตั้งตามชื่อของกษัตริย์ผู้สร้างวัดและสร้างเมืองแพร่ เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าแสนหลวง พระประธานของเมืองแพร่ พระเจ้าแสนหลวงเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ประทับนั่งปางสมาธิสร้างโดยศิลปะ ล้านนาผสมกับสุโขทัย ในสมัยที่ขอมยกทัพเข้ารุกรานเมือง ใน ได้เผาทำลายทั้งเมืองและวัดรวมทั้งเผาลอกเอาทองหุ้มพระเจ้าแสนหลวงไปด้วย พร้อมกับได้ทำการเปลี่ยนชื่อเมืองพลเป็น "เมืองโกศัย" ในปี พ.ศ.1719 พม่าได้ขยายอิทธิพลมาสู่ดินแดนล้านนาและขับไล่ขอมออกไป พม่าได้เรียกเมืองพลว่า "เมืองแพล" ต่อมา พญาพีระไชยวงศ์ เจ้าเมืองแพลได้ทำไมตรีกับพม่าและร่วมกับส่างมังการะเจ้าเมืองพม่า ทำการบูรณะวัดหลวง เจ้าเมืองแพลและชาวเมืองแพลได้ร่วมกันสร้างพระธาตุหลวงไชยช้างค้ำซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุที่นำมาจากเมืองหงสาวดี พร้อมกับได้หุ้มทองพระเจ้าแสนหลวงและตั้งชื่อวัดใหม่ว่า "วัดหลวงไชยวงศ์" ภายในวัดหลวงแห่งนี้ยังมีประตูวัดที่เก่าแก่ เรียกว่า "ประตูโขง" ซึ่งแต่เดิมใช้เป็นประตูของเจ้าเมืองผ่านเท่านั้น แต่ปัจจุบันได้ใช้เป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นของเจ้าเมืองแพร่ และวัดหลวงได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์มาโดยตลอดทุกยุคทุกสมัย จึงทำให้วัดหลวงที่สร้างขึ้นมาพร้อมกับเมืองแพร่ยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์อย่างเช่นทุกวันนี้ และปัจจุบันได้มีการสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์เมืองแพร่ ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ โบราณคดี ศิลปวัฒนธรรมในท้องถิ่นไว้ให้ได้ชมอีกด้วย