ปูชนียสถานที่สําคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดแพร่ ตั้งอยู่บนภูเขาสูงที่ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาและผืนป่า อันเขียวขจี อยู่ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของพระธาตุช่อแฮคือ “วัดพระธาตุดอยเล็ง” การสร้างพระธาตุไม่ปรากฏหลักฐานแน่นอนว่าสร้างในช่วงใด แต่มีมาคู่กับพระธาตุช่อแฮและพระธาตุจอมแจ้ง ตามตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาจากผู้เฒ่าผู้แก่ในอดีตนั้น กล่าวไว้ว่าพระธาตุดอยเล็ง พระธาตุช่อแฮ และพระธาตุจอมแจ้ง เป็นพระธาตุที่สร้างคู่กันมา โดยเล่าว่าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จไปโปรดเวไนยสัตว์มาดอยลูกหนึ่งอยู่ทางทิศใต้ของดอยธชัคคะบรรพต เสด็จมาถึงเวลาใกล้สว่าง ณ ที่นั้นจึงได้ชื่อว่าดอยจวนแจ้ง ปัจจุบันเรียกว่า “พระธาตุจอมแจ้ง” หลังจากนั้นจึงได้เสด็จ มาทางทิศเหนือถึงธชัคคะบรรพตและได้ประทับอยู่ที่นั้นและทรงมอบพระเกศาธาตุให้ขุนลัวะอ้ายก้อมได้เก็บไว้ ณ ที่นั้นซึ่งคือ “พระธาตุช่อแฮ” ในปัจจุบัน จากนั้นจึงเสด็จไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ทรงประทับอยู่ ณ ดอยลูกหนึ่งซึ่งสูงกว่าดอยทั้งหมดในเมืองโกศัย จึงได้เอาบาตรวางไว้ใกล้ๆ ดอยลูกนั้นและเรียกว่า “ดอยภูวาง” และได้เสด็จมาประทับบนดอยอีกลูกหนึ่งได้ประทับแลดูภูมิประเทศของเมืองโกศัย ทรงตรัสว่าที่นี่เป็นเมืองที่น่ารื่นรมย์ เหมาะแก่การสร้างบ้านสร้างเมือง การประทับแลดูนั้นตามภาษาพื้นเมืองเหนือแปลว่า “เล็ง” ดังนั้นดอยลูกนี้จึงเรียกว่า “ดอยเล็ง” ในวัดพระธาตุดอยเล็งมีเจดีย์ เรียกว่า “พระธาตุดอยเล็ง” เป็นพระธาตุขนาดเล็กกว้างราว 5 เมตร สูง 11 เมตร มีการบูรณะมาอย่างต่อเนื่อง ในช่วงงานประเพณีไหว้พระธาตุช่อแฮ เมืองแพร่แห่ตุงหลวง จะมีประชาชนขึ้นไปนมัสการพระธาตุดอยเล็ง เรียกกันว่าเป็น “ประเพณีขึ้นดอยเล็ง” เพื่อระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ครั้งหนึ่งเคยมาประทับ ณ ดอยแห่งนี้