ค้นข้อมูล
Home Thailand Data ข้อมูลจังหวัด สถานพยาบาล สถานศึกษา แหล่งท่องเที่ยว ร้านค้า บริษัท ศาสนสถาน ข้อมูลภาครัฐ Login

อนุสาวรีย์วีรชน 8 ธันวาคม 2484

อนุสาวรีย์วีรชน 8 ธันวาคม 2484

ประจวบคีรีขันธ์ ที่ท่องเที่ยว ภาคกลาง

ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ขณะที่ฝ่ายสัมพันธมิตรและฝ่ายอักษะกำลังโรมรันต่อสู้กันในภาคพื้นยุโรป อยู่นั้น ญี่ปุ่นได้ถือโอกาสประกาศเข้าร่วมกับฝ่ายอักษะ เปิดฉาก รุกรานประเทศในแถบเอเชีย และแปซิฟิก โดยถือเอาวันที่ 8 ธันวาคม 2484 เปิดฉากสงครามรุกคืบหน้าพร้อมกัน ทั่วทั้งภูมิภาค สำหรับประเทศไทยก็หาได้รอดพ้น จากการรุกรานครั้งนี้ญี่ปุ่นได้ยื่นคำขาดขอเคลื่อนทัพผ่านประเทศไทย เพื่อเป็น ทางผ่านไปพม่าและมาลายู แต่ญี่ปุ่นไม่รอคำตอบที่ยื่นขอต่อ รัฐบาลไทยโดย ได้เคลื่อนกำลังทางบกรุกเข้าทางด้าน อรัญประเทศ และกำลังทางเรือยกพลขึ้นพร้อมกันใน 6 จังหวัดชายทะเลภาคใต้ คือ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราชสงขลา และปัตตานี ญี่ปุ่นปฏิบัติการจู่โจมแบบสายฟ้าแลบ ท่ามกลางความเงียบสงัดของเช้ามืดของ วันที่ 8 ธันวาคม เหตุการณ์สำคัญ ในประวัติศาสตร์สงครามได้อุบัติขึ้น ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กำลังทหารญี่ปุ่น 1 กรมผสม เดินทางโดยเรือรบทอดสมอหลบอยู่ด้านหลังเขาล้อมหมวกเพื่อ เตรียมยกพลขึ้นบกยึดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ กองบินน้อยที่ 5 เพื่อเป็นเส้นทางเดินทัพผ่านเข้าประเทศพม่าทางช่องทางด่านสิงขร ณ. เวลาประมาณ 04.00 น. ขณะที่ ร.ต.ศรีศักดิ์ สุจริตธรรม ผู้บังคับหมวดกองร้อยทหารราบและพลทหารจำนวนหนึ่ง กำลังลัดเลาะไปตามชายหาดของอ่าวมะนาวเพื่อลากอวนน้ำตื้น และหาปลาเตรียมสำหรับเลี้ยงรับรอง ผู้บังคับบัญชาชั้นสูงของกองทัพอากาศที่จะมาตรวจราชการ ที่กองบินน้อยที่ 5ได้พบเรือพร้อมลูกเรือจำนวนมากลอยลำอยู่ ทางทิศตะวันออกของเกาะหลัก จึงได้รีบนำความไปแจ้งให้ผู้บังคับกองบินน้อยที่ 5 ทราบ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับกำลังของข้าศึกได้เข้าประชิดถึงตัวแล้วจึงทราบ ว่าเป็นกำลังทหารของญี่ปุ่น เมื่อ 8 ธันวาคม 2484 เวลาประมาณ 05.00 น. กำลังทหารฝ่ายญี่ปุ่นพยายามเข้ายึดพื้นที่ของกองบินน้อยที่ 5 จึงเกิดการสู้รบขั้นตะลุมบอน กำลังทางอากาศของกองบินน้อยที่ 5 พยายามนำเครื่องบินจำนวน 7 เครื่อง บินขึ้นทำการต่อสู้และถูกขัดขวางจากข้าศึก ร.ท.สวน สุขเสริม ผู้บังคับฝูงบินและพลทหาร สมพงษ์ แนวบันทัด พลปืนหลังได้รับบาดเจ็บ มีเพียง พ.อ.อ.แม้น ประสงค์ดี สามารถนำเครื่องบินแบบฮอร์ค 3 ขึ้นบินเป็นผลสำเร็จ แต่ไม่สามารถทิ้งระเบิดเพื่อทำลายเรือฝ่ายญี่ปุ่นได้ เนื่องจากสภาพอากาศไม่อำนวยมีเมฆฝนปกคลุม จึงนำเครื่องบินไปลงที่สนามบินบ่อฝ้าย อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ส่วนกำลังภาคพื้นยังมีการสู้รบกันอย่างหนัก วันที่ 9 ธันวาคม 2484 เวลาประมาณ 11.00 น. ผู้บังคับการกองบินน้อยที่ 5 ได้ ประเมินสถานการณ์แล้วเห็นว่าเป็นรองฝ่ายญี่ปุ่นในทุกๆ ด้าน จึงสั่งให้เผากองรักษาการณ์และคลังน้ำมัน เพื่อมิให้ฝ่ายข้าศึกใช้ประโยชน์แล้วรวบรวม กำลังพลที่เหลือพร้อมทั้งครอบครัวไปรวมกันที่เชิงเขาล้อมหมวกใช้เป็นที่มั่นสำรอง และให้ส่งเสียงไชโยโห่ร้องดังกึกก้องประดุจว่าทางราชการ ได้ส่งกำลังทางเรือมาช่วยเสริมกำลังให้กับกองบินน้อยที่ 5 ทำให้ฝ่ายทหารญี่ปุ่นล่าถอยไปตั้งมั่นอยู่ เพราะเกรงว่าจะตกอยู่ในวงล้อมของฝ่ายไทย วันที่ 9 ธันวาคม 2484 เวลาประมาณ 12.00น. ร.ต.ท.สงบ พรหมรานนท์ พร้อมด้วยบุรุษไปรษณีย์พยายามนำโทรเลขของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี และ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด แจ้งกับผู้บังคับกองบินน้อยที่ 5 ให้ทราบว่า ทางรัฐบาลยินยอมให้ฝ่ายญี่ปุ่นเดินทัพผ่านไปยังประเทศพม่าได้ แต่ ร.ต.ท.สงบ ฯ ถูกกระสุนปืนจากการสู้รบเสียชีวิตทันที ทางจังหวัดจึงได้สั่งให้บุรุษไปรษณีย์ว่ายน้ำนำโทรเลขจากอ่าวประจวบไปขึ้นที่บริเวณเชิงเขาล้อมหมวก และสามารถส่งโทรเลขได้เป็นผลสำเร็จเมอเวลา 13.00 น. เหตุการณ์สู้รบจึงยุติลงเวลาประมาณ 14.00 น. กำลังพลของกองบินน้อยที่ 5 และของฝ่ายญี่ปุ่น ด้รวมพลที่บริเวณสนามบิน เพื่อปรับความเข้าใจซึ่งกันและกันพร้อมทั้งสำรวจความเสียหายของทั้งสองฝ่าย ภายหลังการสู้รบ ฝ่ายทหารญี่ปุ่นซึ่งมีกำลังมากกว่าถึง 10 เท่า เสียชีวิต 417 คน ในขณะที่ฝ่ายไทยเสียชีวิต 42 คน ซึ่งประกอบด้วยทหารอากาศ 38 คน ยุวชนทหาร 1 คน ตำรวจ 1 คน และ ครอบครัว 2 คน เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติในวีรกรรมการต่อสู้อันห้าวหาญของนักรบแห่งกองบินน้อยที่ 5 ซึ่งยอมเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องผนแผ่นดินไทยกองทัพอากาศจึงได้สร้าง อนุสาวรีย์ “ วีรชน 8 ธันวาคม 2484 “ บริเวณที่เกิดการสู้รบ ณ กองบิน 53ฯ ในปัจจุบัน โดยสร้างเสร็จเรียบร้อยเมื่อ 6 พฤศจิกายน 2493 และกองทัพอากาศได้พัฒนาปรับปรุงให้มีความสง่างามยิ่งขึ้นในพื้นที่เดิม เสร็จเรียบร้อย เมื่อ 8 ธันวาคม 2532 โดยมี ผบ.ทอ.เป็นประธานประกอบพิธีเปิด อนุสาวรีย์ พร้อมทั้งได้ประกอบพิธีบรรจุอัฐิวีรชน ซึ่งอัญเชิญมาจากอนุสาวรีย์ ทอ.ในโอกาสเดียวกันนี้ด้วย เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่อนชุนรุ่นหลังสืบไป และในวันที่ 8 ธันวาคมของทุกปีกองทัพอากาศได้กำหนดประกอบ

ที่ตั้ง : ตั้งอยู้ในอุทยานประวัติศาสตร์กองบิน 5 ตำบลเกาะหลัก เมืองประจวบคีรีขันธ์

กิจกรรม:

กิจกรรมย่อย:

กลุ่มเป้าหมาย:กลุ่มครอบครัว/กลุ่มผู้สูงอายุ/กลุ่มวัยทำงาน/กลุ่มนักเรียนนักศึกษา/เยาวชน/วัยรุ่น/กลุ่มสตรี/กลุ่มมุสลิม/กลุ่มคู่รัก / คู่แต่งงาน/

การขนส่ง: รถยนต์/มอเตอร์ไซค์/จักรยาน/

สิ่งอำนวยความสะดวก:ลานจอดรถ/ลานจอดรถ/สุขา/ร้านอาหาร/ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว/ร้านขายสินค้าที่ระลึก/มัคคุเทศก์ท้องถิ่น/ป้ายสื่อความหมาย/ป้ายชี้ทางเข้าถึง/ที่พักสัตว์เลี้ยง(สุนัข)/ที่พักสัตว์เลี้ยง(แมว)/ที่พักสัตว์เลี้ยง(อื่นๆ)/

สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการ:

Website คลิกเพื่อเปิดเว็บไซต์

FB คลิกเพื่อเปิดFacebook

เปิด-ปิด เวลา 08.30-16.30 น.


เปิดGoogle map

จังหวัด>> นราธิวาส   ยะลา   ปัตตานี   พัทลุง   ตรัง   สตูล   สงขลา   ชุมพร   ระนอง   สุราษฎร์ธานี   ภูเก็ต   พังงา   กระบี่   นครศรีธรรมราช   ประจวบคีรีขันธ์   เพชรบุรี   สมุทรสงคราม   สมุทรสาคร   นครปฐม   สุพรรณบุรี   กาญจนบุรี   ราชบุรี   เพชรบูรณ์   พิจิตร   พิษณุโลก   สุโขทัย   ตาก   กำแพงเพชร   อุทัยธานี   นครสวรรค์   แม่ฮ่องสอน   เชียงราย   พะเยา   น่าน   แพร่   อุตรดิตถ์   ลำปาง   ลำพูน   เชียงใหม่   มุกดาหาร   นครพนม   สกลนคร   กาฬสินธุ์   ร้อยเอ็ด   มหาสารคาม   หนองคาย   เลย   อุดรธานี   ขอนแก่น   หนองบัวลำภู   บึงกาฬ   อำนาจเจริญ   ชัยภูมิ   ยโสธร   อุบลราชธานี   ศรีสะเกษ   สุรินทร์   บุรีรัมย์   นครราชสีมา   สระแก้ว   นครนายก   ปราจีนบุรี   ฉะเชิงเทรา   ตราด   จันทบุรี   ระยอง   ชลบุรี   สระบุรี   ชัยนาท   สิงห์บุรี   ลพบุรี   อ่างทอง   พระนครศรีอยุธยา   ปทุมธานี   นนทบุรี   สมุทรปราการ   กรุงเทพมหานคร  
©WhereIs.center