เกาะพระทองเกิดจากซากปะการังทับถมกันมายาวนานนับล้านๆปี จนเกิดเป็นเกาะที่มีสภาพภูมิประเทศที่แปลกตา คือมีลักษณะค่อนข้างแบนราบ กลายเป็นลักษณะเฉพาะตัวอันโดดเด่นของเกาะแห่งนี้ แม้พื้นดินบนเกาะพระทองส่วนใหญ่จะเป็นดินปนทรายไม่เหมาะต่อการเพาะปลูก อันเนื่องมาจากสภาพธรรมชาติและเคยผ่านการทำเหมืองแร่มาก่อน ทำให้ที่นี่มีพืชเศรษฐกิจหลักเพียงมะม่วงหิมพานต์(กาหยี) กับมะพร้าว แต่เกาะพระทองกลับเป็นเกาะที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมาก บนเกาะมีทั้งชายหาด ป่าชายหาด ป่าชายเลน ป่าพรุ ป่าเสม็ด ทุ่งหญ้า ไม้พุ่ม พืชสังคมทดแทน กล้วยไม้หายาก ทางฝั่งตะวันออกของเกาะที่อยู่ห่างจากคุระบุรีแค่ราว 2 กม.นั้น เป็นป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ ถือเป็นแหล่งทรัพยากรสำคัญ คลังอาหารตามธรรมชาติชั้นเลิศของชาวเกาะ เพราะมีทั้ง กุ้ง หอย ปู ปลา โดยเฉพาะกับ “ปูดำ” ที่เป็นสัตว์เศรษฐกิจเด่นของที่นี่ ส่วนทางด้านฝั่งตะวันตกจะเป็นแนวชายหาดอันสวยงามทอดยาวมีทิวสนขึ้นประดับในบางช่วง ขณะที่ถัดลึกเข้ามาจะเป็นไฮไลท์ของที่นี่กับป่าเสม็ด กับทุ่งหญ้าสีทอง หรือที่เรียกขานว่า ทุ่งหญ้าสวันน่าเมืองไทย ที่มีความสวยงามโดดเด่นจนได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน “อันซีนไทยแลนด์” บนเกาะพระทองยังมากไปด้วยสัตว์นานาพันธุ์ โดยที่ถือเป็นไฮไลท์ก็คือ “กวางม้า” หรือ กวางป่าตัวโต ที่ปัจจุบันต้องช่วยกันอนุรักษ์ดูแลให้ดี เพราะกวางป่าที่นี่ถูกหมาเลี้ยง หมาบ้าน ที่เริ่มเปลี่ยนวิถีกลายเป็นหมาป่าไล่ล่า เนื่องจากเจ้าของหมาพวกนี้ส่วนหนึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์สึนามิ อีกส่วนหนึ่งอพยพไปอยู่บนฝั่ง ปล่อยทิ้งพวกมันให้หากินตามยถากรรม ส่วนอีกหนึ่งผู้ล่ากวางที่สำคัญนั้นย่อมหนีไม่พ้น “คน” ที่มีทั้งคนนอกคนใน ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่กลุ่มหนึ่งได้ตั้งกลุ่มอนุรักษ์กวางขึ้นมา คอยดูแลไม่ให้ทั้งหมาทั้งคนไล่ล่า และร่วมอยู่กับกวางอย่างเป็นมิตร นอกจากนี้บนเกาะพระทองยังเป็นแหล่งวางไข่เต่าทะเลที่สำคัญของเมืองไทย ซึ่งชาวบ้านได้ตั้งกลุ่มอนุรักษ์ดูแลเต่าทะเลขึ้นมา อีกทั้งยังเป็นแหล่งดูนกที่สำคัญ เพราะบนเกาะมีนกเกือบ 140 ชนิด ทั้งนกป่า นกน้ำ มีนกที่เด่นๆอย่าง กาน้ำ เหยี่ยวแดง กระสานวล ปากซ่อม รวมถึงนกหายากอย่าง “นกแก๊ก” และ“นกตะกรุม” ที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ นับเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์อันโดดเด่นที่ตอกย้ำถึงลักษณะเฉพาะและความหลากหลายทางธรรมชาติของเกาะพระทอง