ตั้งอยู่ที่บ้านฝายท่า ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง เป็นจุมทะเลหมอกที่มีชื่อเสียงอีกจุดหนึ่งของจังหวัดพังงา โดยเขาไข่นุ้ย มีความสูงประมาณ 200 เมตรจากระดับน้ำทะเล บนยอดเขาไข่นุ้ยมีจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและวิวทะเลหมอกที่มองเห็นได้ในมุมกว้าง ไกลเห็นทะเลหมอกขาวคลอเคลีย ปกคลุมทิวเขาน้อยใหญ่ โดยมีเขาลูกสูง ไล่ระดับเป็นมิติซ้อนกันมีแสงอาทิตย์ในยามเช้าสาดส่อง กระทบทะเลหมอกที่ลอยอยู่เบื้องล่างอย่างสวยงาม สำหรับกลุ่มเขาลูกน้อย ใหญ่ที่เห็นเบื้องหน้า มีแนวเขาลำแก่น เขากะปง เขาพังงา และแนวเทือกเขาภูตาจอที่ตั้งตระหง่านอยู่ในแนวหลังมองเห็นเด่นสุด เขาไข่นุ้ยเดิมเป็นพื้นที่ทำสวนยางของชาวบ้าน พวกเขาเห็น ทะเลหมอกกันจนชินตา แต่ไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ จนเมื่อทางอบต.ไปพบและทำการประชาสัมพันธ์ออกไปก็ได้รับ การตอบรับอย่างดีเยี่ยม เขาไข่นุ้ย มีจุดเด่นอยู่ที่ 5 มหัศจรรย์ คือ 1.พระอาทิตย์ขึ้น 2.พระอาทิตย์ตก 3.ทะเลหมอก 4.ทะเลอันดามัน และ 5.ทิวเขา เขาไข่นุ้ย แม้จะเป็นเขาลูกเตี้ยๆ แต่ว่ามี หมอกอย่างหนาแน่นให้สัมผัสกันนั้นเนื่องจากบริเวณที่เห็นทะเลหมอกใน เป็นช่องเขา ขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยภูเขาใหญ่ๆตามที่กล่าวมาข้างต้น ถือเป็นจุดรวมของหมอกชั้นดีซึ่งโอกาสในการพบ ทะเลหมอกในทุกๆเช้า นั้นมีมากถึง 80% มากน้อยต่างกันไป ดูสวยงามแตกต่างกันแล้วแต่คนชอบ และสามารถชมทะเลหมอกได้ทุกฤดู อย่างฤดูร้อน ที่ใครคิดว่าจะไม่มีหมอก สำหรับชื่อที่มาของภูเขาตั้งตามชื่อคนค้นพบ คือบังไข่กับบังนุ้ย ซึ่งแต่ก่อนเขาลูกนี้ไม่มีชื่อเรียก เป็นพื้นที่สวนยางของชาวบ้าน บังไข่ หรือ “ศักดิ์ แคล่วคลอง” มีพื้นที่สวนยางอยู่ฝั่ง ตะวันตกหรือฝั่งทะเลอันดามัน ส่วนบังนุ้ย หรือ “นุ้ย นิ่งราวี” มีพื้นที่สวนยางอยู่ฝั่งตะวันออกหรือฝั่งภูตาจอ จากนั้นเมื่อไม่นานมานี้ได้มี นักศึกษาจากลาดกระบังมาทำกิจกรรมแล้วมาพัก อยู่ในชุมชน แล้วบังทั้งคู่ได้นำน้องๆนักศึกษาขึ้นมาชมทะเลหมอกบนยอดเขา นักศึกษา จึงตั้งชื่อเขาลูกนี้ว่า “ภูไข่นุ้ย” ตามชื่อเล่นของ บังไข่และบังนุ้ยซึ่งมีสวนยางอยู่ติดกับพื้นที่ยอดเขา เมื่อเขาลูกนี้เปิดตัวเป็นแหล่งท่องเที่ยว จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น “เขาไข่นุ้ย” เพราะชื่อภูนั้นฟังออกไป ทางภาคอีสาน ภาคเหนือ มากกว่า