วัดพระธาตุจอมรุ่ง มีอานาเขต ติดกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยหลวง เสนาสนะประกอบด้วย พระเจดีย์เก่าแก่ ๑ องค์ ศาลาสรงน้ำพระธาตุ วัดพระธาตุจอมรุ่ง เป็นปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธ์ประจำตำบลแม่เย็น เป็นที่บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า มีตำนานกล่าวถึงการสร้าง ( อ้างอิงจากตำนานพระธาตุจอมแว่ ) ครั้งหนึ่งในราวจุลศักราช ๖๕๖ ( พ.ศ. ๑๘๓๗ ) พญางำเมืองเจ้าผู้ครองเมืองภูกามยาว ได้เสด็จเลียบเมืองปลายแดน ได้เสด็จมาถึงดอยลูกหนึ่งเวลาใกล้สว่างและได้เสร็จต่อไปถึงดอยอีกลูกหนึ่งในเวลาสว่าง โดยไม่หยุดพัก และได้เสด็จจนถึงดอยลูกหนึ่งชื่อว่าดอยซางคำจึงเสด็จขึ้นสู่ยอดดอยเพื่อพักทอดพระเนตรอาณาเขตเมืองภูกามยาวของพระองค์ เมื่อพอพระหฤทัยแล้วพระองค์ก็เสด็จไปดอยอีกลูกหนึ่งอยู่ทางทิศเหนือของลำน้ำแม่คาวโตน ในปีเดียวกันนั้น พญางำเมืองได้โปรดให้ขันฑเสนานำคนหาญที่มีความรู้ในการก่อสร้างพระธาตุพร้อมไพร่ปลายแดนก่อสร้างพระธาตุจอมรุ่ง ณ ยอดดอนที่พระองค์เสด็จมาถึงในเวลาใกล้สว่าง มีฐานกว้าง ๑ วา ๒ ศอกคืบ สูง ๒ วา ๓ ศอกคืบ บรรจุพระเกศาธาตุและแก้วแหวนเงินทองของมีค่าอื่น ๆ เอาไว้ เมื่อสร้างเสร็จได้โปรดให้มีการฉลอง ๓ วัน ๓ คืน ในปีเดียวกันนั้นพญางำเมืองก็โปรดให้สร้างพระธาตุขึ้นอีกสององค์ คือ พระธาตุจอมแจ้ง ณ ยอดดอยที่พระองค์ได้เสด็จถึงในเวลาสว่าง และพระธาตุจอมแว่ ณ ยอดดอยซางคำที่พระองค์เสด็จขึ้นทอดพระเนตรอาณาเขตเมืองภูกามยาว การการบูรณะองค์พระธาตุเท่าที่ทราบ ในปีจุลศักราช ๑๒๗๖ ( พ.ศ. ๒๔๕๗ ) มีครูบาธรรมขันธ์ วัดสันกอง ครูบามหาอินต๊ะ วัดม่อนสามเหลียว ( วัดสันต้นแหน ) ครูบาสุธรรม ( ไม่ทราบสังกัดวัด ) ได้พร้อมใจกับศรัทธาญาติโยมร่วมกันทำการบูรณะองค์พระธาตุ จุลศักราช ๑๒๙๓ ( พ.ศ. ๒๔๗๔ ) ครูบาเจ้าศรีวิชัย ( ครูบาศีลธรรม ) นักบุญแห่งล้านนา ได้ร่วมกันกับศิษยานุศิษย์และสาธุชนทำการบูรณะอีกครั้ง จุลศักราช ๑๓๔๙ ( พ.ศ. ๒๕๓๐ ) พระครูปัญญารัตนากร ( คำมูล ปญฺญาวิชโญ ) เจ้าคณะตำบลแม่เย็นได้นำสาธุชนร่วมกับบูรณะองค์พระธาตุให้มีความแข็งแรงขึ้น จุลศักราช ๑๓๖๗ ( พ.ศ. ๒๕๔๘ ) ครูบาเจ้าเทือง นาถสีโล เจ้าอาวาสวัดหลวงเมืองแกน จังหวัดเชียงใหม่ ได้สร้างพระธาตุองค์ใหม่ครององค์เดิม โดยได้ถอดแบบจากพระธาตุหริภุญชัย จังหวัดลำพูน