เป็นวัดเก่าแก่ของจังหวัด เหตุที่ชาวบ้านเรียกวัดน้ำหักเพราะในสมัยก่อนด้านตะวันตกของวัดเป็นแม่น้ำปิงที่มีกระแสน้ำไหลหักวน เมื่อถึงฤดูน้ำหลาก น้ำจากลำห้วยแม่ท้อซึ่งไหลแรงมากได้ไหลตัดกระแสน้ำของแม่น้ำปิง จึงทำให้กระแสน้ำแม่ปิงหักเหเบนเข้าหาท่าน้ำหน้าวัด ต่อมามีการถมดินสองฝั่งแม่น้ำ ร่องน้ำจึงเปลี่ยนไปไม่มีคุ้งน้ำที่มีกระแสน้ำไหลวนให้เห็นอีก ภายในวัดบรรยากาศร่มรื่นมี โบสถ์ และอาคารเรือนไม้สร้างตามศิลปะยุโรป พระอุโบสถของวัดเคยถูกไฟไหม้แต่ได้มีการสร้างขึ้นใหม่ หน้าอุโบสถมีวิหารคต สร้างด้วยไม้แกะสลักลวดลาย ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปสมัยอยุธยา