สร้างเมื่อ พ.ศ.2475 สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ 48 ไร่ เดิมเป็นพุธสถาน อันประกอบด้วยพระเจดีย์พระวิหาร ซึ่งมีซากปรังหักพังเหลือเพียงฐานอิฐซากวิหาร ตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ ทางทิศตะวันออกของตัวอำเภอดอกคำใต้ในปัจจุบันและมีสันเขาใหญ่ทอดยาวโอบล้อม รอบทุกด้านดุจกำแพงธรรมชาติ เป็นโบราณสถานที่มีอายุอยู่ระหว่างยุคของพ่อขุนรามงำเมืองกับพญาธุทธิเจียง ราว๕๐๐ ๗๐๐ปีมาแล้ว ประมาณปีพ.ศ.๑๘๔๙ ๒๐๔๙ โดยอาศัยหลักฐานเทียบเคียงจาก ก้อนอิฐ เหล็กลิ่ม และเครื่องถ้วยชาม ไหสังคโลก จากวัดใกล้เคียงที่มีหลักฐานศิลาจารึก ในยุคสมัยนั้นถือว่าความเจริญรุ่งเรือง ของพระพุธศาสนาคือวิวัฒนาการความเจริญของบ้านเมือง ฉะนั้นในยุคที่บ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุข จึงปรกฏมีหลักฐานทางพระพุธศาสนามากมาย เช่นวัดวาอารามเจดียสถาน ดังนั้นความสำคัญของบ้านเมืองสังคมความเจริญผู้คนจึงถือจุดรวมศูนย์กลางอยู่ ที่ศาสนาและวัฒนธรรม และความศรัทธาปสาทะทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ มโนธรรมสะท้อนภาพจิตวิญญาณอันสูงส่งต่อพระพุธศาสนา ทั่วทุกหัวระแหงจึงมีแต่โบสถ์ วิหารเจดีย์ วัดวาอารามอยู่ดาษดื่นทั่วไปที่มาของวัดพระธาตุแสงแก้วมงคลมงคลแต่ก่อนนั้น ก็ล่มสลายไปตามกาลเวลาต่อมาก็เลือนลางถูกธรรมชาติ ต้นไม้ เครือเขาขึ้นปกคลุมเหลือทิ้งไว้แต่สิ่งก่อสร้างที่ปรักหักพังคือร่องรอยแห่ง ความเจริญของพระพุธศาสนาที่บรรพบุรุษบูรพาจารย์ได้รังสรรค์ประติมากรรม ศิลปกรรมแห่งประวัติศาสตร์ไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาและค้นคว้า