"“เซ็นทรัล เอ็มบาสซี” ขนาด 144,000 ตารางเมตร บนพื้นที่ 9 ไร่ บริเวณด้านหน้าสถานทูตอังกฤษ ถนนเพลินจิตตัดกับถนนวิทยุ มูลค่าโครงการกว่า 18,000 ล้านบาทเต็มสูบ โดยจะเปิดเฟสแรกก่อนในส่วนของค้าปลีกและโรงภาพยนตร์ระดับเฟิร์สคลาส “The Embassy Diplomat Screens” ขนาด 5 โรง ที่ลงทุนไปกว่า 100 ล้านบาท ส่วนเฟสสอง โรงแรมปาร์ค ไฮแอท กรุงเทพ (Park Hyatt Bangkok) ระดับ 6 ดาว จำนวน 222 ห้อง 36 ชั้น ที่ใช้เงินลงทุนมากกว่า 3,500 ล้านบาท พร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบทั้งโครงการในปี2558 ทั้งนี้ คาดหวังว่าโครงการดังกล่าว จะเป็น “ไอคอนนิค รีเทล แลนด์มาร์ค” ภายใต้คอนเซปต์ “Infinite Possibilities” ที่ลูกค้า ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติระดับไฮเอนด์ หรือเอบวก แห่เข้ามาใช้บริการจำนวนมาก เพราะศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี เป็นลักชัวรี่แบบใหม่ แหล่งรวมสินค้าแบรนด์ระดับไฮเอนด์กว่า 200 ร้านค้า ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งโครงการ “เซ็นทรัล เอ็มบาสซี” น่าจะช่วยดันประเทศไทยขึ้นสู่เมืองแห่งการช็อปปิ้งระดับโลกได้ ในส่วนของศูนย์การค้า มีทั้งสินค้าแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ สินค้าระดับไฮเอนด์ ร้านหนังสือ ร้านอาหาร ภัตตาคารสุดฮิป ศูนย์รวมความบันเทิง สปาระดับพรีเมี่ยม ครบวงจรหลากหลายรูปแบบ ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนในเมืองไทย เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างลักชัวรี่แบรนด์ระดับโลก ซึ่งใหม่กว่า 30% ไม่เคยเปิดบริการในไทยมาก่อน และยังมีแบรนด์แฟชั่นชั้นนำจากดีไซเนอร์ไทย ส่วนของโรงแรมก็เลิศหรูมากๆ บริหารโดยกลุ่มไฮแอท อินเตอร์เนชั่นแนล ภายใต้แบรนด์ “พาร์คไฮแอท” Infinity Building ตัวตึกของโครงการเซ็นทรัล เอ็มบาสซี มีความสูงรวม 37 ชั้น และมีหน้ากว้างยาวกว่า 200 เมตร โดยตัวอาคารนั้นแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนศูนย์การค้าจำนวน 8 ชั้น (Retail Podium) และส่วนทาวเวอร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมปาร์คไฮแอท (Tower) ทั้ง 2 ส่วนถูกออกแบบให้เชื่อมต่อกันเป็นเครื่องหมายสัญลักษณ์อินฟินิตี้ (Infinity) ความหมายคือ ไม่มีที่สิ้นสุด ส่วนตัวตึกเป็น 3D Curve คือ โค้ง 3 มิติ ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านบน ทำให้ดูสวยงามลงตัวไม่ว่าจะมองมาจากมุมใด ใช้เกล็ดอะลูมิเนียมจำนวนกว่า 300,000 เกล็ด ติดรายล้อมรอบตัวตึก โดยได้แรงบันดาลใจจากเกล็ดหลังคากระเบื้องเคลือบของพระอุโบสถในวัดไทย เมื่อฉาบแสงอาทิตย์จะเกิดเป็นสีเหลื่อมระยิบระยับสวยงามวิจิตร เสมือนเป็นพื้นผิวของผ้าไหมไทยที่เลื่องชื่อ Central Embassy มีการจัดสรรพื้นที่ ดังนี้ครับ ชั้น B5 – B1 ลานจอดรถ ชั้น LG ศูนย์อาหารอีทไทย (Eathai) ตลาดอีตไทย โดย ท็อปส์ (Talad Eathai by Tops) อิษยา คุกกิ้ง สตูดิโอ และร้านบีทูเอส ชั้น G – 1 ร้านจำหน่ายสินค้าระดับ 6 ดาว โดยฝั่งถนนเพลินจิต จะเป็นร้านจำหน่ายสินค้าแบบไอคอนิกสโตร์ 2 ชั้น จำนวน 7 ร้าน โดยชั้น 1 มีทางเชื่อมไปยังอาคารเวฟเพลส และสถานีรถไฟฟ้า BTS เพลินจิต ด้วย ชั้น 2 ร้านจำหน่ายสินค้า และทางเชื่อมไปยังเซ็นทรัลชิดลม ชั้น 3 ร้านจำหน่ายสินค้าแฟชั่น ชั้น 4 ธนาคาร ร้านจำหน่ายสินค้าเทคโนโลยี ความงาม และของตกแต่งบ้าน ชั้น 5 ร้านอาหาร ชั้น 6 ฝั่งตะวันตก (เซ็นทรัลชิดลม) โรงภาพยนตร์เอ็มบาสซี ดิโพลแมท สกรีนส์ โรงภาพยนตร์ระบบดิจิตอลชั้นหนึ่ง ฝั่งตะวันออก (อาคารเวฟเพลส) ทางเชื่อมไปล็อบบี้ โรงแรมปาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ"